E-mail:
Password:
[ สมัครสมาชิกใหม่ ]


Gallery รวมภาพ
ซีรีย์แผ่นเดียวจบ
ซีรีย์อินเดีย
การ์ตูน Animation
ซีรีย์ไทย ละครไทย
Club Friday
ซีรีย์จีน หนังจีนชุด
ซีรีย์เกาหลี พากย์ไทย
ซีรีย์เกาหลี บรรยายไทย
ซีรีย์ไต้หวัน พากย์ไทย
ซีรีย์ไต้หวัน บรรยายไทย
ซีรีย์ญี่ปุ่น พากย์ไทย
ซีรีย์ญี่ปุ่น บรรยายไทย
ซีรีย์ฝรั่ง พากย์ไทย
ซีรีย์ฝรั่ง บรรยายไทย
ซีรีย์สิงคโปร์ พากย์ไทย
รายการทีวี เกมส์โชว์
คอนเสิร์ต ทอล์คโชว์
สารคดี BBC Discovery
หนัง อีโรติก เรทR
ถ่ายแบบ/Idol
ออกกำลังกาย
ดีวีดีลดราคา
ลดล้างสต๊อก
ข่าวประชาสัมพันธ์



รับข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าใหม่ๆ
โปรดใส่อีเมล์ของท่าน ด้านล่าง

Online: 309 user(s)






ศัพท์ข่าวเช้านี้ สอนภาษาอังกฤษโดย แอนดรูว์ บิ้กส์ 6 DVD


โกโกริโกะเกมส์กึ๋ย  

กบนอกกะลา

TV Champion

TV Champion

เชฟกะทะเหล็ก

คู่หูคู่ฮา

ขำกลิ้ง ลิงกับหมา 

แก๊งซ์ 3 ช่า

 คลิกดูรายละเอียด

คลิกดูรายละเอียด

คลิกดูรายละเอียด






ซีรีย์อินเดีย พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก 14 DVD พากย์ไทย


ซีรีย์อินเดีย มหาภารตะ Mahabharat 28 DVD พากย์ไทย


ค้นหาสินค้า :
หมวด: ซีรีย์ไทย ละครไทย / ละครไทย หนังไทย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1- ภาค 6 6 DVD


ชื่อสินค้า :ละครไทย หนังไทย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1- ภาค 6 6 DVD
รายละเอียด :


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1 ตอน องค์ประกันหงสา
พุทธศักราช 2106 พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ทรงกรีฑาทัพเข้าตีราชอาณาจักรอยุธยาทางด่านระแหงแขวงเมืองตาก ทัพพม่ารามัญซึ่งมีรี้พลเหลือคณานับ
ได้เข้ายึดครองหัวเมืองฝ่ายเหนือของราชอาณาจักรอยุธยา อันมีเมืองพิษณุโลกเป็นประหนึ่งเมืองราชธานีได้เป็นผลสำเร็จ
ครั้งนั้น สมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดาของสมเด็จพระนเรศวรหรือพระองค์ดำ ซึ่งเป็นเจ้าแผ่นดินครองเมืองพิษณุโลก
จำต้องยอมอ่อนน้อมต่อพระเจ้าบุเรงนองเพื่อรักษาไว้ ซึ่งชีวิตอาณาประชาราษฎร์มิให้ต้องมีภยันตราย และจำต้องยอมร่วมกระบวนทัพพม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยา
ศึกครั้งนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเจ้าแผ่นดินอยุธยาทรงยอมเจรจาหย่าศึกกับพม่ารามัญ และยอมถวายช้างเผือก 4 เชือก ทั้งให้สมเด็จพระราเมศวรราชโอรส
โดยเสด็จพระเจ้าบุเรงนองไปประทับยังนครหงสาวดีตามพระประสงค์ของกษัตริย์พม่า ข้างสมเด็จพระมหาธรรมราชาซึ่งได้ยอมอ่อนน้อมต่อพระเจ้าบุเรงนอง
ก็ได้ถวายสมเด็จพระนเรศวรราชโอรสองค์โตให้ไปเป็นองค์ประกันประทับยังหงสาประเทศเฉกเช่นกัน ครั้งนั้นพระองค์ทรงมีพระชนมายุได้เพียง 9 ชันษา


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 ตอน ประกาศอิสรภาพ
พ.ศ. 2114 สมเด็จพระมหาธรรมราชา ซึ่ง พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง สถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจาก พระมหินทราธิราช ได้โปรดเกล้าฯ ให้
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นอุปราชครองเมืองพิษณุโลก เมื่อ พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2124 พระเจ้านันทบุเรง ขึ้นเสวยราชย์สืบแทน
และสถาปนาพระโอรส  มังสามเกียด  ขึ้นเป็น  พระมหาอุปราชา  รัชทายาท ในการนี้เจ้าเมืองประเทศราชทั้งหลายต้องมาร่วมแสดงความสวามิภักดิ์ รวมถึง พระมหาธรรมราชา
และ สมเด็จพระนเรศวร ด้วย แต่เจ้าฟ้าไทยใหญ่ผู้ครองเมืองคังไม่ได้เสด็จมาร่วมพระราชพิธีสำคัญครั้งนี้ เป็นเหตุให้ พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ทรงมอบหมายให้
พระมหาอุปราชา, พระราชนัดดา  นัดจินหน่อง  พระโอรสเจ้าเมืองตองอู และ สมเด็จพระนเรศวร ช่วยกันเข้าตีเมืองคัง แต่ พระมหาอุปราชา กลับสั่งให้ สมเด็จพระนเรศวร
เข้าตีเป็นทัพสุดท้ายหมายจะหักหน้า ด้วยความมั่นใจว่าทัพของพระองค์และนัดจินหน่องจะประสบความสำเร็จ แต่ปรากฏว่า สมเด็จพระนเรศวร ทรงมีชัยชนะในศึกเมืองคังนี้
สามารถจับตัวเจ้าฟ้าเมืองคังและพระธิดา  เลอขิ่น  กลับมาได้ รัชทายาทหงสาวดีและ ราชนิกูลฝ่ายพม่าซึ่งเป็นคู่ปรับกันมาตั้งแต่เยาว์วัยจึงขุ่นเคืองอาฆาตแค้น สมเด็จพระนเรศวร เป็นทวีคูณ
ต่อมาเมื่ออังวะกระด้างกระเดื่องแข็งเมือง พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ให้ สมเด็จพระนเรศวร แต่งทัพขึ้นมาช่วยรบ พระมหาอุปราชา จึงใช้โอกาสนี้วางแผนลอบปลงพระชนม์
ในขณะที่ สมเด็จพระนเรศวร ทรงยั้งทัพอยู่ ณ เมืองแครง ซึ่ง พระมหาเถรคันฉ่อง ได้นำพระเณรและชาวมอญในหงสาวดีมาสร้างวัดใหม่ที่นี่หลังจากพ่ออยู่หัว บาเยงนอง (บุเรงนอง) เสด็จสวรรคต
และได้แจ้งแผนร้ายของ พระมหาอุปราชา ให้ศิษย์รักทรงทราบ สมเด็จพระนเรศวร จึงถือเป็นเหตุในการประกาศอิสรภาพ ตัดสัมพันธไมตรีกับหงสาวดี และกวาดต้อนชาวไทยชาวมอญกลับคืนพระนคร
ฝ่ายพม่าเมื่อทราบว่าการลอบปลงพระชนม์ไม่สำเร็จ จึงให้สุระกำมาเร่งนำทัพออกติดตาม สมเด็จพระนเรศวร ทรงมอบหมายให้ทหารเอกคือ ออกพระชัยบุรี กับ ออกพระศรีถมอรัตน์
คอยสกัดและเกิดการสู้รบกันครั้งใหญ่ที่บริเวณช่องเขาขาด โดยออก พระราชมนู กับ เลอขิ่น มาร่วมสมทบ ในที่สุดก็ทัพพม่าก็ตามมาถึงในขณะที่ สมเด็จพระนเรศวร และไพร่พลกำลังข้ามแม่น้ำ
ศึกครั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงใช้พระแสงปืนต้นยิงข้ามแม่น้ำ สะโตงถูกแม่ทัพสุระกำมาตายบนคอช้าง ทัพพม่าจึงล่าถอยกลับไป


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ตอน ยุทธนาวี
การประกาศเอกราชที่เมืองแครง และสังหารสุรกำมาเหนือยุทธภูมิฝั่งน้ำสะโตงของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระนเรศ ในปีพุทธศักราช 2127
ได้สร้างความตระหนกแก่ พระเจ้านันทบุเรง องค์ราชันหงสาวดีพระองค์ใหม่ ด้วยเกรงว่าการแข็งข้อของอยุธยาในครั้งนี้
จะเป็นเยี่ยงอย่างให้เหล่าเจ้าประเทศราชที่ขึ้นกับหงสาวดีอาศัยลอกเลียนตั้งตัวกระด้างกระเดื่องตาม แต่จนพระทัยด้วยติดพันศึกอังวะ จึงจำต้องส่งเพียงทัพ
พระยาพะสิม และ พระเจ้าเชียงใหม่ เข้าประชิดกรุงศรีอยุธยา ทางหนึ่งนั้น พระเจ้านันทบุเรง ทรงประมาท สมเด็จพระนเรศ ด้วยเห็นว่ายังอ่อน พระชันษา
คงมิอาจรับมือจอมทัพผู้ชาญณรงค์ทั้งสองได้ ทางหนึ่งก็สำคัญว่ากรุงศรีอยุธยายัง บอบช้ำแต่คราวสงครามเสียกรุง ไพร่พลเสบียงกรังยังมิบริบูรณ์คงยากจะรักษาพระนคร
ครั้งนั้นพม่ารามัญยกเข้ามาเป็นศึกกระหนาบถึง 2 ทาง ทัพพระยาพะสิมยกเข้ามาทาง ด่านพระเจดีย์สามองค์ เลยล่วงเข้ามาถึงแดนสุพรรณบุรี ส่วนพระเจ้าเชียงใหม่-นรธาเมงสอ
มาจากทางเหนือ นำทัพบุกลงมาตั้งค่ายถึงบ้านสระเกศ แขวงเมืองอ่างทอง
กิตติศัพท์การชนะศึกของ สมเด็จพระนเรศ หลายครั้งหลายคราระบือไกลถึงแผ่นดินละแวก เจ้ากรุงละแวกมิได้ทอดธุระ ได้ลอบส่งจารชนชาวจีนฝีมือกล้านามว่า
จีนจันตุ มาลอบสืบความ ที่กรุงศรีอยุธยาแต่ถูกจับพิรุธได้จนต้องลอบตีสำเภาหนีกลับกรุงละแวก สมเด็จพระนเรศ ทรงนำทัพเรือออกตามจนเกิดยุทธนาวี แต่ พระยาจีนจันตุ
หนีรอดได้ เมื่อเจ้ากรุงละแวกได้ทราบกิตติศัพท์การณรงค์ของ พระนเรศ จึงเปลี่ยนพระทัยหันมาสานไมตรีกับอยุธยา และส่ง พระศรีสุพรรณราชาธิราช ผู้อนุชามาช่วยอยุธยาทำศึกหงสา หากแต่
พระศรีสุพรรณ ผู้นี้ต่างจากเจ้ากรุงละแวกเพราะหาใคร่พอใจผูกมิตรด้วยอยุธยา การได้ พระศรีสุพรรณ มาเป็นสหายศึกจึงประหนึ่งอยุธยาได้มาซึ่งหอกข้างแคร่ข้าง สมเด็จพระนเรศ
เมื่อทรงประกาศเอกราชแล้วก็จัดเตรียมการรับศึกหงสาวดี แต่เพราะกำลังรบข้างอยุธยาเป็นรอง จึงทรงวางยุทธศาสตร์รับศึกโดยมุ่งอาศัยกรุงศรีอยุธยาเป็นที่มั่นเพียงแห่งเดียว
ครั้งนั้นได้โปรดให้เทครัวหัวเมืองเหนืออันเป็นแคว้นสุโขทัยเดิมลงมารวมกับครัวที่อยุธยา การณ์ปรากฏว่าเจ้าเมืองพิชัย และสวรรคโลกข้าหลวงเดิมแข็งเมืองไม่เทครัวลงมาสมทบ จึงทรงยึดเมืองแล้วลงทัณฑ์มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
สมเด็จพระนเรศ ทรงเห็นว่ากำลังข้างอยุธยายังเป็นรองพม่ารามัญ จึงทรงปรับเปลี่ยน ยุทธศาสตร์การรบเสียใหม่ โดยมิปล่อยให้ทัพ พระยาพะสิม และ นรธาเมงสอเจ้าเมืองเชียงใหม่
เข้ามารวมกำลังผนึกล้อมร่วมกันตีกรุงศรีอยุธยา ครั้งนั้นทรงจัดทัพออกรับศึกในแขวงหัวเมือง แลด้วยทัพพม่ารามัญแยกสายเข้าตีเป็นสองทางเดินทัพช้าเร็วไม่เสมอกัน
จึงทรงเทกำลังเข้ารับศึก พระยาพะสิม ที่เมืองสุพรรณบุรี ตั้งพระทัยจะตีทัพเบื้องประจิมทิศก่อน แล้วจึงเทกำลังเข้าตีทัพ พระเจ้าเชียงใหม่ เบื้องอุดรทิศภายหลัง
การทั้งหมดทั้งสิ้นต้องทำแข่งกับเวลา หากพลาดท่าแม้เพียงก้าวอยุธยาก็ไม่พ้นพินาศ ถึงแม้ครั้งนั้นทัพพม่ารามัญจะมิได้ยกมาดั่งทัพกษัตริย์เช่นศึกพระเจ้าช้างเผือกบุเรงนอง
แต่ไพร่พลก็มากเหลือประมาณ เพียงพอจะสร้างความย่อยยับให้ เหล่าอาณาประชาราษฎร์เกินคาดเดา
ภายใต้บรรยากาศกลิ่นอายสงครามนับแต่ศึกจีนจันตุ ตลอดถึงศึก พระยาพะสิม และ ศึกพระเจ้าเชียงใหม่ ในพระนครก็เกิดไฟรักโชติขึ้นท่ามกลางไฟสงคราม กลายเป็นเรื่องรักระหว่างรบ
ด้วย เลอขิ่น ธิดาเจ้าเมืองคัง มีอันมาพบ เสือหาญฟ้า คนรักเก่าที่รอดชีวิตมาแต่ศึกเมืองคัง โดยบังเอิญ เกิดขัดข้องเป็นรักสามเส้ากับ พระราชมนู คนรักใหม่ทหารเสือ พระนเรศ
ไฟรักยิ่งลุกลามเมื่อนางพระกำนัลทรงเสน่ห์นาม รัตนาวดี มาทอดไมตรีให้ พระราชมนู เกิดเป็นปมรัก ซ้อนปมรบ
ทางฝ่ายหงสาวดีนั้น พระเจ้านันทบุเรง กษัตริย์พม่ารามัญพระองค์ใหม่มีใจพิศวาส พระสุพรรณกัลยา-พระพี่นางใน สมเด็จพระนเรศ หมายจะได้มาแนบข้าง ซ้ำพระนเรศอนุชา
มาประกาศเอกราชท้าทายอำนาจของพระองค์ ทำให้สถานะของพระสุพรรณกัลยาในฐานะ องค์ประกันต้องสุ่มเสี่ยงต่อราชภัย พระสุพรรณกัลยา ซึ่งขณะนั้นมีพระราชโอรสด้วยพระเจ้าบุเรงนองแล้ว
ทรงถูก พระเจ้านันทบุเรง ข่มขู่ บีบบังคับให้ต้องเลือกระหว่างการยอมพลีกายถวายตัวเป็น บาทบริจาริกา หรือยอมจบชีวิตด้วยการถูกย่างสดตามโทษานุโทษของพระอนุชา ชะตากรรมของพระพี่นางสุพรรณกัลยานั้นสุดรันทด
เมื่อ พระเจ้าหงสาวดี ทรงเสร็จศึกอังวะก็เตรียมการเปิดศึกกับอยุธยา ทรงระดมไพร่พล แต่งเป็นทัพกษัตริย์ กองทัพใหญ่โตเหลือคณากว่าทัพบุเรงนองช้างเผือก เฉพาะไพร่ราบมีกำลัง รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 240,000 คน
ทัพนี้หมายมุ่งบดขยี้อยุธยาลงเป็นผุยผงหากทัพพระยาพะสิมและทัพพระเจ้าเชียงใหม่ตีกรุงไม่สำเร็จ แต่ สมเด็จพระนเรศ ก็สู้ศึกนันทบุเรงและนำพากรุงศรีอยุธยา ให้รอดจากภัยสงคราม
กู้บ้านเมืองมิให้ต้องตกเป็นประเทศราชหงสาซ้ำสองได้ด้วยกุศโลบาย การศึกที่เหนือชั้นด้วยพระอัจฉริยภาพ


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 4 ตอน ศึกนันทบุเรง
เรื่องราวอันเป็นผลจากการปราชัยของหงสาวดีในคราวศึก พระยาพะสิม และ พระเจ้าเชียงใหม่ ซึ่งทำให้ พระเจ้านันทบุเรง ทรงตระหนักในพระปรีชาสามารถของ สมเด็จพระนเรศวร
และในความเข้มแข็งของกองทัพอยุธยา จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์มาย่ำยีราชธานีสยามหวังให้ราบเป็นหน้ากลองเพื่อเป็นการแก้มือ และเพื่อรักษาซึ่งพระเกียรติยศ
มิให้เป็นที่ดูแคลนแก่เหล่าเจ้าประเทศราชในการปกครองของฝ่ายพม่า
กองทัพกษัตริย์ของ พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง มีความสมบูรณ์ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามกว่าทุกศึก ประกอบด้วยช้าง 3,200 ทัพม้า 12,000 และไพร่ราบซึ่งมีจำนวนถึง 252,000
โดยมีนายทัพผู้ปรีชาสามารถมาร่วมรบ ทั้ง พระมหาอุปราชา มังจาปะโร และลักไวทำมูทหารกล้า
กิตติศัพท์ความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามของทัพหงสาวดีที่ยกเข้ามานี้ ส่งผลให้เจ้าเมืองในขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักรอยุธยาข้างฝ่ายเหนือประหวั่นพรั่นพรึงถึงกับสมคบคิดกัน
แปรพักตร์เข้าสมานสมัคร พระเจ้านันทบุเรง รบ สมเด็จพระนเรศวร เป็นเหตุให้ สมเด็จพระนเรศวร ต้องเผชิญทั้งศึกนอกและศึกใน สถานการณ์กลับยิ่งบีบคั้นให้คับขันยิ่งขึ้น
เมื่อ พระศรีสุพรรณธรรมาธิราช พระอนุชาเจ้ากรุงละแวกซึ่งขัดพระทัย สมเด็จพระนเรศวร แต่กาลก่อน ได้ยุยงให้พระเชษฐาตัดสัมพันธไมตรีกับอยุธยา
ละแวกจึงกลายเป็นหอกข้างแคร่ที่พร้อมจะกระหน่ำซ้ำเติมสยามให้ย่อยยับหากมีอันพลาดท่าเสียทีในศึกนันทบุเรงนี้
ภัยรอบด้านบีบรัดให้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงต้องเผชิญศึกอย่างโดดเดี่ยว ซ้ำเคราะห์กลับทับทวีคูณเมื่อสหายศึก เช่น เลอขิ่น และกองกำลังเมืองคัง ซึ่งร่วมกรำศึก
กันมาแต่เบื้องต้นคิดถอนตัวตีจากเนื่องจากพิษรักระหว่างรบที่จบลงด้วยความร้าวฉานระหว่าง เลอขิ่น กับ พระราชมนู ขุนศึกคู่พระทัย
ความขัดแย้งด้วยเหตุส่วนตัวได้บานปลายกลายเป็นภัยของแผ่นดินในคราวคับขันเมื่ออยุธยาต้องเผชิญศึก ซึ่งประมาณได้ว่าเป็นมหาสงครามภายใต้โทสจริตของ พระเจ้านันทบุเรง
ด้วยข้อจำกัดที่รุมเร้าหลายประการ ผสานกับจำนวนไพร่พลที่เป็นรองหงสาวดีอยู่หลายขุม ทำให้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงจำต้องปรับยุทธศาสตร์การตั้งรับทัพหงสาวดี
โดยทรงใช้พระนครศรีอยุธยาซึ่งมีทำเลที่ตั้งที่ได้เปรียบเป็นฐานบัญชาการรบแต่เพียงแห่งเดียว ทรงส่งกำลังออกไปปักปราการ
วางแนวป้องกันมิให้พม่าเข้ามาปลูกค่ายใกล้ขอบคูพระนครและกำแพงเมือง ทั้งยังแต่งกำลังเป็นกองโจรเข้าปล้นค่ายข้าศึกอย่างอาจหาญ
เมื่อศึกเหนือเสือใต้รุมกระหน่ำ ขุนนางผู้ใหญ่ขาดสามัคคีคิดคดคำนึงแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง จอมทัพผู้รั้งราชบัลลังก์และความอยู่รอดของแผ่นดินก็มาพลาดท่า
ต้องศาสตรากลางสมรภูมิศึก ยอดทหารเอกกรุงศรีถูกขุนศึกผู้ชาญณรงค์กว่าจับเป็นเชลย ชะตากรรมกรุงศรีอยุธยา และ สมเด็จพระนเรศวร จะลงเอยอย่างไร


ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ตอน ยุทธหัตถี
ในปี พ.ศ. 2129 พระเจ้านันทบุเรง ทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชั­   ยต่อ สมเด็จพระนเรศฯ อย่างย่อยยับ ทั้งต้องเสียไพร่พลและพระสิริโฉม จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์พระสุพรรณกั­   ลยา
เมื่อ สมเด็จพระมหาธรรมราชา พระราชบิดาทราบค­   วามก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระ­   ราชธิดาและแผ่นดินอยุธยาที่ถูกกระทำการย่ำ­   ยีก็ด้วยเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้­   างศัตรู
จนตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศฯ ทรงมีพระชนมายุ 31 พรรษา จึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติค­   รองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา สมเด็จพระมหาธรรมราชา หรือ (สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 1)
ข่าวการผลัดแผ่นดินของกรุงศรีอยุธยารู้ไปถึง พระเจ้านันทบุเรง แห่งกรุงหงสาวดี พระเจ้านันทบุเรง พระราชโอรสในพระเจ้าบุเรงนอง สำคัญว่าราชอาณาจักรสยาม หรืออาณาจักรอยุธยาจะไม่เป็นป­   กติสุขเป็นช่องชวนชิงเชิง
จึงโปรดให้พระราชบุตร พระมังสาม­   เกียด หรือ(พระมังกะยอขวาที่ 1) พระมหาอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ นำกองทัพทหาร 240,000 นาย (สองแสนสี่หมื่นนาย)
มาตีกรุงศรีอยุธยาหมายจะชนะศึกในครั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงทราบว่า พม่ายกทัพใหญ่มาตี จึงทรงเตรียมไพร่พล มีกำลัง 100,000 นาย (หนึ่งแสนนาย) เดินทางออกจากบ้านป่าโมก
อ่างทองไปสุพรรณบุรี ข้ามน้ำตรงท่าท้าวอู่ทอง ลพบุรี และตั้งค่ายหลวงบริเวณหนองสาหร่าย
โดย สมเด็จพระนเรศวร โปรดให้ พระราชมนู แต่­   งพลเป็นทัพหน้าขึ้นไปลองกำลังข้าศึกถึงหนอง­   สาหร่าย ทัพหน้า พระราชมนู ปะทะเข้ากับทัพพม่าถึงขั้­   นตะลุมบอน แต่กำลังข้าง พระราชมนู
น้อยกว่าจึงแตกพ่ายถ­   อยลงมาเป็นอลหม่าน สมเด็จพระนเรศฯ ทราบความจึงออกอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นพระคชสารทรงของสมเด็จพระนเรศฯ
นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และพระคชสารทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือเจ้าพระ­   ยาปราบไตรจักรต่างตกมัน วิ่งเตลิดแบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญกลางว­   งล้อมข้าศึก
และหยุดอยู่หน้าช้าง พระมังสามเกียดพระมหาอุปร­   าชา พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระมหาอุปราชาทรงพระคชสารอยู่ในร่มไม้กับเหล่าพระยาขุนศึก
จึงทราบได้ว่าพระคชสารทรงของสองพระองค์หลงถลำเข้ามาถึงกลางกองทัพข้าศึก และตกอยู่ในวงล้อมข้าศึกแล้ว แต่ด้วยพระปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร
ทรงเห็นว่าเป็นการเสียเปรียบข้าศึกจึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วตรัสถามด้วยคุ้นเคยมาก่อนแต่วัยเยาว์ว่า  พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน
ให้สมพระเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว
พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาได้ยินดังนั้น จึงไสพระคชสารนามว่า พลายพัทธกอเข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพเสียหลัก พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาทรงฟันสมเด็จพระนเรศวรด้วยพระแสงของ้าว
แต่ สมเด็จพระนเรศวร ทรงเบี่ยงหลบทัน จึงฟันถูกพระมาลาหนังขาด จากนั้น เจ้าพระยาไชยานุภาพชนพลายพัทธกอเสียหลัก สมเด็จพระนเรศวร ทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูก
พระมังสามเกียด พระมหาอุปราชา เข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง ส่วน สมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงฟันเจ้าเมืองจาปะโรเสียชีวิตเช่นกัน พม่าจึงยกทัพกลับกรุงหงสาวดีไป
นับแต่นั้นมาก็ไม่มีกองทัพใดกล้ายกมากล้ำกรายกรุงศรีอยุธยาอีกเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 6 ตอน อวสานหงสา
ในปี พ.ศ. 2135 หลังพ่ายศึกยุทธหัตถี ฝ่ายหงสาวดีพระเจ้านันทบุเรง ทรงโทมนัสที่ต้องสูญเสียพระราชโอรส จึงมีรับสั่งให้คลอกไฟเหล่าแม่ทัพนายกอง ที่ตามเสด็จพระมหาอุปราช ให้ตายตกตามกัน
ทั้งยังระบายพระโทสะไปที่ พระสุพรรณกัลยา องค์ประกัน และพระราชโอรสธิดาถึงสิ้นประชนม์ชีพ
ข้าง สมเด็จพระนเรศวร นั้น มีพระราชประสงค์จะนำทัพปราบหงสาวดี ให้ราบคาบ มิให้ตกค้างเป็นเสี้ยนหนาม ครั้นมาได้ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ ของพระพี่นาง และพระราชนัดดาก็ยิ่งโทมนัส
จึงตัดสินพระทัยยกทัพใหญ่ หมายเหยียบหงสาวดีให้ราบเป็นหน้ากลอง ในระหว่างที่เดินทางมาถึงเมืองเมาะตะมะได้จับตัว พระยาลอ ผู้สำเร็จราชการแทน ที่พระเจ้านันทบุเรง ส่งให้มาปกครองเมือง
ถูก เม้ยมะนิก ราชธิดาของ ศิริสุธรรมราชา เจ้าเมืองเมาะตะมะลอบสังหาร เพื่อแก้แค้นแทนบิดา พร้อมรวบรวมชาวรามัญเพื่ออาสาขอเข้าร่วมรบพม่ากับชาวอโยยา
แต่ครั้นเมื่อทัพของพระองค์เสด็จถึงหงสาวดีก็พบแต่เพียงเศษซากของมหานครอันเคยยิ่งใหญ่ ด้วยนัดจินหน่อง ราชบุตรพระเจ้าตองอูได้วางอุบาย
เชิญพระเจ้านันทบุเรงพร้อมกวาดต้อนผู้คนแลทรัพย์ศฤงคารของหงสาไปไว้ยังตองอูจนหมดสิ้น
ครั้งนั้น สมเด็จพระนเรศวร จึงทรงยกทัพตามขึ้นไปถึงเมืองตองอู มีพระราชบัญชาให้ เมงเยสีหตู เจ้าเมืองส่งตัว พระเจ้านันทบุเรงออกมาถวาย ด้านนัดจินหน่องเห็นว่าพระเจ้านันทบุเรง
ที่เชิญมานั้น เป็นภัยชักศึกเข้าบ้าน จึงหมายยืมมือ สมเด็จพระนเรศวร สังหาร พระเจ้านันทบุเรง เสีย แต่เมื่อ สมเด็จพระนเรศวร ได้ทอดพระเนตรเห็น พระเจ้านันทบุเรง ที่ทรงทุพพลภาพเป็นที่น่าสมเพช
ก็ให้สลดพระราชหฤทัย ระหว่างนั้น เมงราชาญี เจ้าเมืองยะไข่ได้แต่งทัพเป็นกองโจร ตีลัดตัดเสบียงอยุธยามิให้ส่งข้าวน้ำขึ้นไปเลี้ยงทัพที่ล้อมพระนครตองอูอยู่ สมเด็จพระเอกาทศรถ
จึงแบ่งทัพลงมาหมายจะเผด็จศึกยะไข่มิให้เป็นหอกข้างเเคร่ แต่ทรงพลาดท่าถูกเมงราชาญีจับตัวได้ พระราชมนู จำต้องขันอาสานำกำลังลงมา แก้เอา สมเด็จพระเอกาทศรถ กลับคืน และยกทัพกลับยังอยุธยา
ข้างฝ่ายพุกามประเทศนั้นได้บังเกิดกษัตริย์ชาตินักรบขึ้นมา แทนพระเจ้าชนะสิบทิศ มีพระนามว่า พระเจ้ายองยาน ตามชื่อพระนครที่ปกครอง พระเจ้ายองยาน ทรงขยายแสนยานุภาพ
ครอบคลุมดินแดนพม่าตอนบน เข้ายึดครองหัวเมืองในรัฐไทยใหญ่ทั้งหลาย และทรงกรีฑาทัพเข้าตีเมืองยองห้วยและเมืองแสนหวีซึ่งขณะนั้นล้วนเป็นเมืองประเทศราชของอยุธยา
เมื่อ สมเด็จพระนเรศวร ทรงล่วงรู้ก็ทรงมีพระราชดำริที่จะตัดไฟเสียแต่ต้นลม ไม่ให้อธิราชศัตรูพลิกฟื้นขึ้นมา เป็นเสี้ยนหนามแผ่นดินอยุธยาได้อีก สมเด็จพระนเรศวร
จึงได้เสด็จยกกองทัพไปตีอังวะ ครั้งนั้น พระมหาเถรคันฉ่อง และ พระอัครมเหสีมณีจันทร์ ซึ่งกำลังทรงพระครรภ์ก็ทูลขอให้งด ซึ่งราชการสงคราม สมเด็จพระนเรศวร
จึงทรงให้สัญญาว่า จะเสด็จไปทำศึกครานี้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเสด็จถึงเมืองเชียงใหม่ก็ยั้งทัพจัดกระบวนอยู่หนึ่งเดือน แล้วให้ทัพ สมเด็จพระเอกาทศรถ
ยกขึ้นไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงยกไปทางเมืองหาง ตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว อยู่มา สมเด็จพระนเรศวร ทรงพระประชวรจึงโปรดให้ข้าหลวงรีบเชิญเสด็จ
พระเอกาทศรถ มาเฝ้า ครั้นมาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวร ก็เสด็จสวรรคตเมื่อวันจันทร์ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สมเด็จพระเอกาทศรถ
จึงได้อัญเชิญพระบรมศพ สมเด็จพระนเรศวร กลับกรุงศรีอยุธยาราชธานี


สั่งซื้อ :
เลือก สินค้า จำนวน
แบบธรรมดา (6ชิ้น) ราคา฿120 ชุด
แบบสกรีน (6ชิ้น) ราคา฿180 ชุด
Boxset (6ชิ้น) ราคา฿270 ชุด





17-01-2024 Views: 724

หมวดสินค้า: ซีรีย์ไทย ละครไทย

ละครไทย ชะนีปีชง (2023) 4 DVD
ละครไทย ชะนีปีชง (2023) 4 DVD
ละครไทย องศาสูญ Absolute Zero 3 DVD
ละครไทย องศาสูญ Absolute Zero 3 DVD
ละครไทย พี่นักเลงที่รัก My Dear Gangster Oppa 2 DVD
ละครไทย พี่นักเลงที่รัก My Dear Gangster Oppa 2 DVD
ละครไทย ทีมรักนักหลอก Analog Squad (2023) 2 DVD
ละครไทย ทีมรักนักหลอก Analog Squad (2023) 2 DVD
ละครไทย คนกลางแล้วไง Wednesday Club 2 DVD
ละครไทย คนกลางแล้วไง Wednesday Club 2 DVD
ละครไทย แก๊งข้าใครอย่าเตะ Don't Touch My Gang 2 DVD
ละครไทย แก๊งข้าใครอย่าเตะ Don't Touch My Gang 2 DVD
ละครไทย เรือนชฎานาง (2023) 5 DVD
ละครไทย เรือนชฎานาง (2023) 5 DVD
ละครไทย กลเกมรัก (2023) 4 DVD
ละครไทย กลเกมรัก (2023) 4 DVD
ละครไทย มนตราฟ้าฟื้น (2023) 4 DVD
ละครไทย มนตราฟ้าฟื้น (2023) 4 DVD
ละครไทย หนังไทย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1- ภาค 6 6 DVD
ละครไทย หนังไทย ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1- ภาค 6 6 DVD
ละครไทย พรหมลิขิต Love Destiny 2 (2023) 6 DVD
ละครไทย พรหมลิขิต Love Destiny 2 (2023) 6 DVD
ละครไทย คืนเปลี่ยนชีวิต One Night Stand 4 DVD
ละครไทย คืนเปลี่ยนชีวิต One Night Stand 4 DVD
ละครไทย รักซ่อนชู้ VIP (2023) 4 DVD
ละครไทย รักซ่อนชู้ VIP (2023) 4 DVD
ละครไทย เจ้าสาวบ้านไร่ (2023) 4 DVD
ละครไทย เจ้าสาวบ้านไร่ (2023) 4 DVD
ละครไทย สงครามเงิน (2023) 5 DVD
ละครไทย สงครามเงิน (2023) 5 DVD



หน้าแรก   |  รูปแบบสินค้า   |  วิธีสั่งซื้อ/วิธีชำระเงิน   |  สถานะใบสั่งซื้อ/แจ้งโอนเงิน   |  ติดต่อเรา/แจ้งเคลม   |  ดีวีดีลดราคา |Admin

Copyright©2024 lover-dvd.com / Email:   by Click2u

Close